วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ความรักสากล คือ UNIVERSAL LOVE

ความรักสากล คือ UNIVERSAL LOVE
โดย พุทธทาสภิกขุ

          วามรักสากล หมายถึงว่า มีความรักชีวิตผู้อื่น ไม่เลือกหน้า ไม่มีขอบเขตจำกัด ไม่มีเขา ไม่มีเรา. ทุกศาสนาก็ต้องการอย่างนี้ ; แม้แต่จริยธรรมก็ต้องการอย่างนี้ ให้มีความรักผู้อื่น เสมอกันกับความรักตัว ; นี่จิตใจมันสูง. ถ้าจิตใจมันต่ำ มันก็เห็นแก่ตัว มันรักผู้อื่นไม่ได้ ; แม้แต่เพื่อนฝูงอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน ก็ยังชกต่อยกัน ; ที่จะไปรักคนอื่นทั่วไป แม้ที่เป็นศัตรูนี้จะทำได้อย่างไร.
          เราจะต้องมีความคิดนึกที่ถูกต้องตามหลักตามอุดมคติของศีลธรรม ; ว่าเราทุกคนชีวิตทั้งหมดนี้ เป็นเพื่อนเดินทางจากความชั่วไปสู่ความดี. จากความต่ำไปสู่ความสูง, จากความทุกข์ทรมานไปสู่ความพ้นทุกข์สิ้นเชิง, เป็นเพื่อนด้วยกันทั้งหมดทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติไหน ภาษาไหน, หรือจะเป็นศาสนาไหนก็ตาม, ล้วนเป็นเพื่อนเดินทางด้วยกันทุกคน. เราต่างกันแต่เพียงว่ามีฐานะต่างกัน อะไรต่างกันบางอย่างเท่านั้นเอง ; แต่ทว่า หน้าที่แล้วละก็เหมือนกันหมด ; จะต้องเดินทางจากความต่ำไปหาความสูง เพื่อหมดทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น จากความสุขอยู่ในกรงขัง ไปสู่ความพ้นเป็นอิสระทางวิญญาณ. ฉะนั้น เรา ต้องรักผู้อื่นด้วยกันทั้งหมด ในฐานะเป็นเพื่อนเสมอกัน เป็นความรักสากลอย่างนี้ เป็นความไม่เห็นแก่ตัวโดยสิ้นเชิง.
          ดังที่กล่าวมานี้ เป็น อุดมคติของลูกเสือ เพื่อทำลายความเห็นแก่ตัว ; ความเห็นแก่ตัวมีขึ้นเมื่อไร ก็มีความโลภ ความโกรธ ความหลง เมื่อนั้น. เห็นแก่ตัว มีขึ้นมา ก็โลภ อยากจะได้, เห็นแก่ตัว เมื่อไม่ได้อย่างใจ มัน ก็โกรธ ก็ฆ่าเขา ตีเขา ด่าเขา, เห็นแก่ตัว มัน ก็มืดมัว ซอกแซก สงสัย สนใจ ไม่มีขอบเขตจำกัด และมัวเมาในสิ่งต่าง ๆ. เมื่อมีความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นที่ไหน ; มันก็มีความชั่ว หรือว่ามีกิเลสขึ้นมามีการเบียดเบียนที่นั่น แม้ไม่เบียดเบียนผู้อื่น มันก็เบียดเบียนตัวเอง ทรมานตัวเองให้เร่าร้อนหม่นหมองอยู่ตลอดเวลา ; นี่เรียกว่าเบียดเบียนตัวเอง มีความเห็นแก่ตัวที่ไหน ก็มีความเบียดเบียนตัวเองที่นั่น ; ฉะนั้น เราต้องทำลายความเห็นแก่ตัว ซึ่งเป็นอุดมคติของทุกศาสนา เป็นอุดมคติของศีลธรรมทั้งหมด จนกระทั่วเกิด universal love มีความรักสากล.
          สิ่งต่าง ๆ ที่เขาให้ลูกเสือศึกษาอบรมประพฤติฝึกฝน ก็เพื่อสิ่งเหล่านี้คือความดีสูงสุด ที่มนุษย์ควรจะได้ทั้งนั้น. อย่าไปเห็นว่า มันหยุดอยู่เพียงแค่รู้เท่านั้น ต้องประพฤติกระทำ เพื่อเกิดนิสัยที่ดี เพื่อให้เกิด spirit ที่ดี ให้มีขึ้นมาในตัว. เราจะ ต้องมองให้เห็นอุดมคติหรือความมุ่งหมาย แล้วกระทำให้ได้. อย่าทำเพียงแสดงละคร, อย่าเพียงแต่สวมเครื่องแบบลูกเสือ, อย่าเพียงแต่แสดงท่าทางไปตามแบบ ; อย่างนั้นมันก็เป็นลูกเสือไปตามแบบ. ไม่ใช่เราจับสัตว์บางชนิดมาสวมเครื่องแบบลูกเสืออย่างนี้ก็จะเป็นลูกเสือได้ เป็นตำรวจ เป็นทหารได้. แต่ เป็นอะไรก็ตาม ต้องหมายความว่า จะเป็นได้ ต่อเมื่อ ปฏิบัติหน้าที่นั้น ๆ อยู่, หรือ ปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้นสำเร็จแล้ว ; เพียงแต่สวมเครื่องแบบแล้วออกท่าทางนั้น เป็นละครลิงชนิดหนึ่ง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น. ต้องประพฤติ กระทำได้ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยจิตใจ นั้นจึงจะได้เป็น ตามที่เรามุ่งหมายที่เป็นลูกเสือ.
          นี้เรียกว่าเราจะเพ่งเล็งถือเอาจริยธรรมสากลเป็นหลัก ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้รับ นั้นคืออะไร ? เป็นอย่างไร ? เป็นอุดมคติของลูกเสือ. เป็นอุดมคติของจริยธรรมสากล, เป็นอุดมคติของทางศาสนาทุกศาสนาพร้อมกันในตัว ; คล้ายกับยิงนกทีเดียวได้นกหลายตัว ตัวใหญ่ ๆ ทุกชนิดได้หมด. มันดีอย่างนี้ โดยใช้จริยธรรมสากลเป็นหลัก ; สิ่งที่ดีที่สุดของมนุษย์เป็นอย่างนี้. เมื่อเราเป็นลูกเสือก็ควรจะทำให้ได้อย่างนี้.
*******
กิ่งธรรมจาก http://www.buddhadasa.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น